top of page
11.jpg

กินแบบไหน...ได้แบบนั้น

ตรวจจุลินทรีย์ในลำไส้ สุขภาพดีเริ่มที่ลำไส้แข็งแรง

silver-light-white-christmas-background-with-blur-bokeh-beautiful-texture-glow-sparkle_edi

ทำความรู้จักกับ "จุลินทรีย์ในลำไส้"

จุลินทรีย์ (Microorganism) เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวครอบคลุมทั้ง แบคทีเรีย ไวรัส รา ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในลำไส้

และบริเวณอื่นๆ ด้วย เช่น ปาก ผิว ปอด ทางเดินปัสสาวะ ช่องคลอด มีมากถึง 90% ของเซลล์ทั้งหมดในร่างกาย

โดยเซลล์ของร่างกายจริงๆ มีเพียงแค่ 10% เท่านั้น หากเราอยากมีสุขภาพที่แข็งแรง แต่เรายังละเลย

ไม่สนใจเซลล์ 90% ที่เหลือของร่างกายเลย สุขภาพของเราจะแข็งแรงอย่างแท้จริงได้อย่างไร

รู้หรือไม่...จุลินทรีย์ในลำไส้ มีอยู่ 2 ประเภท

จุลินทรีย์ในลำไส้ มีทั้งตัวดีและตัวร้าย ซึ่งมาจากพฤติกรรมต่างๆ ของเรา ไม่ว่าการทานอาหารเผ็ดการทาน
อาหารหวานการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นประจำ ความเครียด ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ ล้วนทำลายสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้
หากจุลินทรีย์ในลำไส้เสียสมดุล ลำไส้จะทำงานผิดปกติ ก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังและโรคร้ายแรงต่าง ๆ

ใครบ้างที่ควรตรวจจุลินทรีย์.jpeg

จุลินทรีย์ตัวดี (Good bacteria)

ช่วยรักษาสุขภาพลำไส้ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย

ช่วยการขับถ่าย กระตุ้นภูมิคุ้มกัน เผาผลาญไขมัน และลดสารพิษในลำไส้

จุลินทรีย์ตัวร้าย (Harmful bacteria)

ทำการย่อยโปรตีนกลายเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งเมื่อมีปริมาณมากๆ

จะถูกกำจัดที่ตับได้ไม่หมด และยังทำให้เกิดการอักเสบ หากมีจำนวนมาก

จะโจมตีจุลินทรีย์ที่ดี ทำให้ร่างกายอ่อนแอและเกิดโรค

ประโยชน์ของจุลินทรีย์ในลำไส้

จากการศึกษาพบว่าแท้จริงแล้วประชากรจุลินทรีย์ในลำไส้นี้ มีความเชื่อมโยง

กับสุขภาพของเราอย่างไม่น่าเชื่อ บุคคลที่มีจุลินทรีย์ในกระเพาะอาหารชื่อ

เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter pylori) มีโอกาสเป็นโรค

แผลกระเพาะอาหาร เนื้องอก และมะเร็งในกระเพาะอาหาร มากกว่าคน

ที่ไม่พบเชื้อจุลินทรีย์ชนิดนี้ หรือหากสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ได้รับความเสียหาย

เช่น มีจุลินทรีย์บางชนิดมากเกินไปหรือน้อยเกินไป คุณก็อาจมีความเสี่ยงที่จะป่วย

ด้วยโรคต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น โรคหอบหืด ผิวหนังอักเสบ

ปลอกประสาทเสื่อมแข็ง  โรคหัวใจ โรคอ้วน หรืออัลไซเมอร์เป็นต้น

ตรวจลำไส้-ท้องเสีย.jpeg
ตรวจจุลินทรีย์.jpeg

ทำไมต้องตรวจจุลินทรีย์ในลำไส้

รู้หรือไม่ 9 ใน 10 ของเซลล์ในร่างกายนั้นคือ “จุลินทรีย์” หากจุลินทรีย์ในลำไส้

ที่เสียสมดุล จะเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคเรื้อรังร้ายแรงมากมาย รวมถึง

การเลือกทาน Probiotics ให้เหมาะสม เพราะจุลินทรีย์ของแต่ละคนแตกต่างกัน

ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรม และพันธุกรรม จุลินทรีย์ในตัวคนเปลี่ยนได้ตลอดเวลา

การตรวจจุลินทรีย์จะไม่เหมือนกันการ DNA เพราะ DNA คนเปลี่ยนแปลงไม่ได้

แต่จุลินทรีย์ในตัวคนเปลี่ยนได้ เพราะฉะนั้นการตรวจจุลินทรีย์ในร่างกายเรา

จึงสำคัญอย่างยิ่งไม่แพ้กัน

โปรแกรมตรวจจุลินทรีย์ในลำไส้

คลิกรูปภาพเพื่อนอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

Gut-Microbiome-DNA-Test-ดูแลสุขภาพจุลินทรีย์-เสริมโพรไบโอติกส์ตามที่ร่างกายขาด.jpeg
Urine-Organic-Acid-Test-ค้นหาต้นตออาการที่ไม่ทราบสาเหตุ-มากกว่า-50-รายการ.jpeg

โปรแกรมตรวจระดับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้เชิงลึก (Stool-PCR) พร้อมปรับสมดุลลำไส้ให้แข็งแรง ตามร่างกายของแต่ละคน  ด้วยการเสริมโพรไบโอติกส์ตามที่ร่างกายขาดจึงช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากที่สุด

โปรแกรมวิเคราะห์ความสมดุลในกระบวนการขับสารพิษ ผ่านการตรวจ
วัดปริมาณกรดอินทรีย์ที่ถูกขับออกมาทางปัสสาวะ ซึ่งสามารถสะท้อน
ถึงการทำงานของร่างกายได้ในหลายระบบ

โพรไบโอติกส์กินเป็นปี.jpg
กินโพรไบโอติกอย่างไรให้ได้ผล.jpeg

การรับประทานโพรไบโอติกส์ให้ได้ผล

การกินโพรไบโอติกส์ให้ได้ผลต้องกินคู่กับพรีไบโอติกส์ พอได้ฟังแบบนี้
หลายคนก็จะสงสัยแล้วว่ามันเกี่ยวข้องกันยังไง เพราะจริงๆ โพรไบโอติกส์เปรียบเสมือนทหารที่พร้อมรบกับเชื้อโรคที่ปะปนเข้ามาในร่างกาย แต่ทหาร
จะมีแรงสู้รบก็ต้องมีเสบียงอาหารหรือพรีไบโอติกส์ด้วยจะได้มีแรงไปสู้รบกับเชื้อโรค เมื่อมีทั้งทหาร (โพรไบโอติกส์) กับเสบียงอาหาร (พรีไบโอติกส์)
รวมกันแล้วจะเรียกว่า ซินไบโอติกส์ เมื่อกินคู่กันก็จะทำให้กองกำลังทหาร
ของเราทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

วิธีเลือกโพรไบโอติกส์ให้เหมาะสมกับตัวเอง

จุลินทรีย์ในลำไส้ของร่างกายแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน ซึ่งความแตกต่างกันของจุลินทรีย์ได้รับผลจากปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร ความเครียด การพักผ่อน การออกกำลังกาย วิธีคลอด ฯลฯ จุลินทรีย์ในร่างกายที่แตกต่างกันหรือกล่าวได้ว่า ความไม่สมดุลที่ไม่เหมือนกันจึงเป็นผลต่อปัญหาสุขภาพที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล การเลือกรับประทานโพรไบโอติกส์โดยไม่ทราบสายพันธุ์ หรือไม่ตรงกับสมดุลจุลินทรีย์ของตัวเอง อาจทำให้กินแล้วไม่เห็นผล ดังนั้น การตรวจเพื่อรู้ชื่อสายพันธุ์จุลินทรีย์จึงเป็นประโยชน์ในการช่วยเสริมโพรไบโอติกส์ให้ตรงกับร่างกายตัวเอง รวมถึงสัดส่วนที่ควรบริโภคในแต่ละบุคคลจึงเป็นสิ่งสำคัญ

เลือกโพรไบโอติกส์ที่ใช่กับร่างกายตัวเอง.jpeg

การเกิดสิวเรื้อรัง อาจไม่ได้เกิดจากปัญหาฮอร์โมนเพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วอาหารที่เราทานทุกวัน อาจมีส่วน
สำคัญอย่างมากเพราะสิวที่เกิดจากอาหารนั้น ทางการแพทย์เรียกว่า 'ภูมิแพ้อาหารแบบแฝง' หรืออาการ 'ลำไส้รั่ว' 
โดยสิวที่เกิดจากแพ้อาหาร เกิดจากร่างกายเข้าข่ายมีภาวะลำไส้รั่ว อาการเหล่านี้อาจเกิดจากการทานอาหารชนิดเดิมซ้ำ ๆ
มักเป็นอาหารที่ชอบทาน และเศษอาหารเหล่านี้หลุดผ่านผนังลำไส้ที่รั่วเข้าไปยังกระแสเลือด เมื่อร่างกายเจอเศษอาหารแปลกแปลอม
จึงมีการสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านอาหารนั้น เลยทำให้เกิดอาการแพ้ขึ้น ดังนั้นจึงเกิดสิวเรื้อรัง อักเสบ และรักษาไม่หายตามมา 

bottom of page